คริสต์มาส: งานเลี้ยงแห่งการอยู่ร่วมกันหรือสังคมแห่งการบริโภคนิยม?

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาภาพลักษณ์ของคริสต์มาสมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก

คริสต์มาสเป็นงานฉลองที่ครอบครัวต่างๆ รวมตัวเพื่อเฉลิมฉลองวันประสูติของพระเยซูคริสต์ แต่กลับกลายเป็นช่วงเวลาแห่งการบริโภคนิยม

ปัจจุบันธุรกิจต่างๆ เฟื่องฟู ร้านค้าต่างๆ ขายสินค้าตกแต่งคริสต์มาสทุกประเภท เป็นเวลาที่จะกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายมากขึ้น เมื่อใดก็ตามที่คุณเข้าไปในร้านค้า ห้างสรรพสินค้า และซูเปอร์มาร์เก็ต ก็จะมีการลดราคาซึ่งทำให้ลูกค้าซื้อของมากกว่าที่จำเป็น ผู้คนลืมความหมายของคริสต์มาส ซึ่งก็คือการเฉลิมฉลองพระเจ้าที่ตัดสินใจให้กำเนิดมนุษย์เพื่อที่พระองค์จะได้ช่วยเรา แต่ตอนนี้แม้แต่คริสเตียนก็มีแนวโน้มที่จะลืมเรื่องนี้ โดยถือว่าคริสต์มาสเป็นช่วงเวลาแห่งการแสดงความสามารถทางการเงินในการเข้าร่วมกิจกรรมการกุศล

กลายเป็นกิจกรรมการกุศลที่ต้องถูกบังคับให้ทำหรือแม้แต่กิจกรรมที่แสดงให้เห็นความหมายที่แท้จริง คนเราตัดสินใจที่จะช่วยเหลือใครบางคนหรือแม้แต่บ้านพักเด็ก แต่การกระทำแรกคือการโพสต์ลงในโซเชียลมีเดียเพื่อให้มีผู้เข้าชมหรือผู้ติดตามมากขึ้น ไม่ใช่ช่วงเวลาแห่งการเอาใจใส่ต่อเราที่ไม่มีใครมีช่วงเวลาแห่งการแบ่งปันความสุขและความผูกพันกับผู้ที่ด้อยโอกาส แต่เป็นแรงผลักดันในการให้ในโบสถ์หรือเพื่อให้ได้รับอิทธิพลในการทำกิจกรรมดังกล่าวเพื่อแสดงออก

คริสต์มาสเป็นช่วงเวลาแห่งการย้อนกลับไปสู่ส่วนลึกสุดของเรา เพื่อดูว่ามีอุปสรรค เนินเขา หรือก้อนหินใดที่แยกเราจากพระเจ้า และทำความสะอาดโดยไปที่ศีลแห่งการคืนดีตามที่ยอห์นผู้ให้บัพติศมากล่าวไว้ว่า จงเตรียมพร้อมไว้ หนทางแห่งพระเจ้า เมื่อทำเช่นนี้ เราจะสามารถเฉลิมฉลองและทำสิ่งต่างๆ ได้ตามต้องการ ความเมตตา ด้วยศักดิ์ศรีและผู้คนซึ่งเราอยากช่วยเหลือจะรู้สึกถึงการมีอยู่ของพระเจ้าในตัวเราและท่ามกลางเรา

หากเราฉลองคริสต์มาสด้วยวิธีนี้ พระคริสต์จะประสูติมาเพื่อเราและประทับอยู่ท่ามกลางเรา พระนามของพระองค์ กล่าวว่า อิมมานูเอล (พระเจ้าอยู่กับเรา) ขอให้เราเฉลิมฉลองคริสต์มาสทุกวันในช่วงเวลาที่เหลือของเราบนโลกนี้ และการกระทำของเราจะเปี่ยมไปด้วยความเมตตาและความรักของพระเจ้า

สุขสันต์วันคริสต์มาสและสวัสดีปีใหม่แก่ทุกคน

ความเมตตาของพระเจ้ามีอยู่เสมอ

 

แหล่ง

ภาพ

 

นอกจากนี้คุณยังอาจต้องการ